ปัจจุบันมีธุรกิจเล็กๆ เกิดขึ้นจำนวนมาก และเป็นธุรกิจที่มีความยืดหยุ่นในการทำงานสูง สถานที่ที่ใช้ในการทำงานจึงไม่จำเป็นต้องเป็นอาคารสำนักงาน เพราะมีพนักงานจำนวนไม่มาก รูปแบบออฟฟิศในปัจจุบันจึงมีการเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย ที่นิยมมากคือ Home Office และ Co-working Space ทั้งสองอย่างนี้มีลักษณะ ข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับธุรกิจและความต้องการของผู้ประกอบการ ดังนั้นควรพิจารณาให้ดีก่อนตัดสินใจว่าจะเลือกเช่าแบบไหนดี
Home Office
Home Office หรือ โฮมออฟฟิศ คือ สำนักงานที่ใช้เป็นที่อยู่อาศัยได้ในตัว เหมาะสำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการลดค่าใช้จ่ายในการเช่าทั้งบ้านและออฟฟิศ และยังสะดวกสบายที่ไม่ต้องเดินทางไปกลับ Home Office มีลักษณะคล้ายทาวน์โฮม มี 3 ชั้นขึ้นไป ชั้นล่างจะมีการแบ่งสัดส่วนไว้สำหรับการทำงานโดยเฉพาะ ชั้นบนใช้เป็นที่อยู่อาศัย ลานด้านหน้ามีพื้นที่กว้างขวางไว้รองรับการจอดรถของพนักงานอย่างน้อย 4-6 คัน
ข้อดีของ Home Office
- ตกแต่งได้ตามใจชอบ พื้นที่ทำงานมักได้รับการตกแต่งเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของบ้าน จึงทำให้มีบรรยากาศสบายๆ ผ่อนคลาย ไม่ตึงเครียด
- ลดค่าใช้จ่ายในการเช่าสถานที่สองต่อ ผู้ประกอบการไม่ต้องเช่าทั้งออฟฟิศและบ้านพร้อมกันสองที่ ลดค่าใช้จ่ายลงไปได้มาก
- ลดค่าใช้จ่ายที่ต้องใช้ทั้งที่บ้านและที่ทำงาน ค่าใช้จ่ายไม่ว่าอินเทอร์เน็ต ค่าน้ำ ค่าไฟ ก็จะลดลงไป แม้จริงอยู่ว่าบางอย่าง อย่างค่าน้ำค่าไฟ ปริมาณการใช้งานย่อมเพิ่มขึ้นตามจำนวนคน แถมมีการใช้งานคอมพิวเตอร์เพิ่มขึ้นมาหลายเครื่องก็ย่อมแพงขึ้น แต่ลองนึกถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าส่วนกลาง เช่น ตู้เย็น ถ้าใช้แค่เครื่องเดียวก็ลดค่าไฟลงไปได้ประมาณหนึ่งเลย
- จอดรถสะดวก เพราะ Home Office มีพื้นที่จอดรถเพื่อรองรับรถของพนักงานและลูกค้าประมาณ 4-6 คัน เวลาจอดก็สะดวกสบายกว่าที่จอดรถของอาคารสำนักงานหลายแห่งที่อาจต้องวนหาที่จอดอยู่นาน
- มีสวัสดิการเพิ่มให้พนักงานโดยไม่ต้องลงทุน ส่วนใหญ่มักจะมีส่วนกลางอย่าง ฟิตเนส สระว่ายน้ำ ซึ่งพนักงานของเราก็สามารถไปใช้งานได้ฟรี
- บรรยากาศผ่อนคลาย เพราะ Home Office ก็คือบ้าน บรรยากาศในที่ทำงานจึงมักออกมาแบบสบายๆ เป็นกันเอง
- แต่งตัวได้ตามใจชอบ การแต่งตัวจะฟรีสไตล์มากกว่าออฟฟิศตามสำนักงานที่ต้องแต่งตัวเรียบร้อย เสื้อเชิ้ต ผูกไทด์ กางเกงสแล็กหรือกระโปรงทรงเอ เพื่อให้ดูเรียบร้อย น่าเชื่อถือ เพราะเวลาออกไปข้างนอก ไปพักกลางวัน ก็จะพบเจอผู้คนจำนวนมาก แตกต่างกับ Home Office ที่ไม่ค่อยได้เจอคนอื่นๆ ยกเว้นวันที่ต้องพบลูกค้าก็ต้องแต่งตัวให้เรียบร้อยขึ้นมาเพื่อให้ถูกกาลเทศะ
ข้อเสียของ Home Office
- ความน่าเชื่อถือ การใช้ Home Office เป็นสำนักงานมักมีความน่าเชื่อถือไม่เท่าออฟฟิศที่อยู่ในอาคารสำนักงานขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียง
- ทำเลที่ไกลกว่า ไกลในที่นี้คือ ไกลจากปากซอย ไกลจากรถไฟฟ้า เนื่องจากที่ดินที่เดินทางสะดวกหน่อยก็มีราคาแพงกว่า ไม่เหมาะกับการสร้างเป็น Home Office พนักงานที่ทำงานด้วยจึงควรมีรถส่วนตัวเพื่อความสะดวกในการเดินทาง
Co-working Space
Co-working Space คือ พื้นที่ทำงานร่วมกัน เป็นสถานที่ที่คนที่ทำงานอิสระ พนักงานบริษัทเล็กๆ อย่างสตาร์ทอัพ และ SME มักจะมาเช่าพื้นที่เพื่อการทำงาน โดยเป็นพื้นที่สำหรับทำงานร่วมกัน มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสำหรับการทำงานครบครัน เช่น โต๊ะวางคอมพิวเตอร์ เก้าอี้ โซฟา ปลั๊กต่อสายไฟ เครื่องปรินท์ ไวไฟ และถ้าต้องการประชุมก็มีห้องประชุมส่วนตัว ไปจนถึงห้องสำหรับอบรมสัมมนาให้เช่าด้วย ส่วนค่าเช่าสามารถจ่ายเป็นรายวัน รายเดือน หรือรายปีเลยก็ได้ จึงได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่คนรุ่นใหม่
ข้อดีของ Co-working Space
- ราคาถูกกว่าเช่าออฟฟิศ เนื่องจากออฟฟิศสำนักงานให้เช่านั้นมีราคาสูงกว่า และบางครั้งก็เกินความต้องการของธุรกิจขนาดเล็กที่มีพนักงานไม่กี่คน และอาจไม่ได้มาทำงานกันทุกวันด้วยนโยบาย Work from Home ที่นิยมในหมู่คนรุ่นใหม่เพราะเชื่อว่าจะช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพกว่าด้วย
- มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ ใครที่คิดว่าถ้าเป็นอย่างนี้ไปนั่งทำงานในร้านกาแฟกันก็ได้ อยากให้เปลี่ยนความคิดใหม่ เพราะแม้ร้านกาแฟบางแห่งจะมีนโยบายให้ลูกค้านั่งได้นานเท่าที่ต้องการ แต่ก็ควรคำนึงถึงลูกค้าคนอื่นที่อยากมานั่งดื่มกาแฟจริงๆ ด้วย และที่สำคัญ ร้านกาแฟไม่มีอุปกรณ์สำนักงานอำนวยความสะดวก เช่น เครื่องปรินท์ เครื่องถ่ายเอกสาร กระดานไวท์บอร์ด หรือถ้าอยากจะพูดคุยก็พูดคุยเสียงดังมากไม่ได้ด้วย
- เปิดโอกาสสร้างคอนเน็คชั่นใหม่ๆ ผู้ที่ไปทำงานใน Co-working Space มักเป็นเหล่าสตาร์ทอัพ และ SME เหมือนกัน ซึ่งบุคคลเหล่านี้มักมีแนวคิดในการทำงานคล้ายๆ กัน การพูดคุยจึงเป็นไปได้ง่ายกว่า และเพิ่มโอกาสในการสร้างคอนเน็คชั่นง่ายกว่ามาก
- บรรยากาศเหมาะกับการทำงาน เพราะมีการจัดสภาพแวดล้อมให้เหมาะกับการทำงาน แถมยังเหมาะกับคนเหงาที่ไม่อยากทำงานในบ้านเงียบๆ คนเดียวด้วย
- เดินทางสะดวก ที่ตั้งของ Co-working Space ส่วนใหญ่จะอยู่ในทำเลที่เดินทางสะดวก อยู่ในย่านธุรกิจ ติดรถไฟฟ้า มีที่จอดรถ
ข้อเสียของ Co-working Space
- เสียงดัง เพราะไม่ใช่ที่ทำงานที่เงียบกริบ เพราะจะมีเสียงพูดคุยเรื่องงานบ้าง เสียงคุยโทรศัพท์บ้าง ใครไม่ชอบทำงานกับเสียงเหล่านี้คงรู้สึกว่าไม่ค่อยเหมาะเพราะเสียสมาธิ
- เก็บความลับยาก แม้ว่า Co-working Space จะมีห้องประชุมให้บริการ แต่ผนังมักเป็นกระจกใส ไม่ใช่ที่ปิดทึบมิดชิด ดังนั้นถ้าต้องการพูดคุยสิ่งที่เป็นความลับของบริษัท Co-working Space ก็ไม่ค่อยเหมาะสักเท่าไหร่
- ความน่าเชื่อถือ บริษัทที่ทำงานแต่ใน Co-working Space มักได้รับความน่าเชื่อถือน้อยกว่าบริษัทที่มีที่ทำงานเป็นหลักเป็นแหล่ง
สรุปแล้ว ทั้ง Co-working Space และ Home Office ก็มีลักษณะที่แตกต่างกันมาก ซึ่งได้รับความนิยมทั้งสองแบบเพราะช่วยประหยัดต้นทุนมากกว่าออฟฟิศในอาคารสำนักงาน และมีความยืดหยุ่นสูง แต่การเลือกว่าจะเช่า Co-working Space หรือ Home Office ต้องดูที่ความต้องการของธุรกิจเราด้วย เช่น ถ้าต้องการความน่าเชื่อถือสูงขึ้นมาหน่อย ก็ควรเลือก Home Office เพราะมีที่ทำงานเป็นหลักแหล่ง ลูกค้าสามารถตามตัวได้ แต่ก็อาจมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่า Co-working Space มาก ดังนั้นในระยะเริ่มแรกของธุรกิจอาจจะเริ่มด้วยการเช่า Co-working Space แล้วค่อยขยับขยายมาเป็น Home Office ในอนาคตก็ได้