การกู้เงินมาใช้จ่าย ไม่ว่าจะสินเชื่อส่วนบุคคล หรือบัตรเครดิต ถ้าหากบริหารจัดการเงินได้ไม่ดี ก็จะเกิดหนี้ที่ไม่สามารถชำระได้ตามกำหนด และเพื่อไม่ให้เกิดการฟ้องร้อง การปรับโครงสร้างหนี้จึงเป็นทางเลือกหนึ่งในการแก้ไขปัญหา เพื่อที่จะเพิ่มความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้
การปรับโครงสร้างหนี้คืออะไร?
การปรับโครงสร้างหนี้ คือการขยายเวลาในการผ่อนชำระหนี้ ทั้งหนี้บัตรเครดิต และหนี้สินเชื่อส่วนบุคคล เนื่องจากลูกหนี้ไม่สามารถผ่อนชำระหนี้ได้ตามข้อกำหนดของสัญญาด้วยเหตุผลต่างๆ เช่น ตกงาน ธุรกิจล้มเหลว ป่วย หรือประสบอุบัติเหตุ ทั้งเจ้าหนี้และลูกหนี้ต้องมาพูดคุยหาข้อตกลงเพื่อให้ลูกหนี้สามารถชำระหนี้ได้ตามแนวทางของสัญญาใหม่ การปรับโครงสร้างหนี้สามารถทำได้ 2 แบบ
- เป็นการแปลงหนี้ใหม่ หมายถึง ระงับหนี้เดิม แล้วสร้างสัญญาหนี้ใหม่ เป็นการเปลี่ยนประเภทหนี้และเพิ่มจำนวนหนี้
- ไม่เป็นการแปลงหนี้ใหม่ หมายถึง ไม่ระงับหนี้เดิม แต่เปลี่ยนอัตราดอกเบี้ย และการชำระหนี้
หลักเกณฑ์การปรับโครงสร้างหนี้
- พิจารณาว่าเจ้าหนี้มีหลักประกันหรือไม่
- จำนวนหนี้ของแต่ละเจ้าหนี้
- ต้นทุนและค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับจำนวนหนี้ เช่น ค่าปรับ ค่าทวงถามที่หยุดชำระหนี้
- ผู้บริหารระดับสูงของเจ้าหนี้ต้องมีส่วนร่วมและทราบความคืบหน้าการปรับโครงสร้างหนี้
- ข้อมูลของลูกหนี้ต้องครบถ้วนสมบูรณ์จึงปรับโครงสร้างหนี้ได้
- การปรับโครงสร้างหนี้ต้องมีเงื่อนไขและข้อตกลงที่เป็นธรรมเพื่อให้ลูกหนี้ดำเนินกิจการต่อไปได้
- ควรมีการรายงานความคืบหน้าของการปรับโครงสร้างหนี้ให้กระทรวงการคลัง (กค.) และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ทราบเป็นระยะ
การปรับโครงสร้างหนี้มีข้อดีข้อเสียอย่างไร?
ข้อดี
- ช่วยยืดระยะเวลาในการชำระหนี้ให้กับลูกหนี้ ทำให้หนี้ไม่กลายเป็นหนี้เสีย
- เป็นการประนีประนอมทั้งฝ่ายลูกหนี้และเจ้าหนี้ ไม่ต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่ายในการดำเนินการฟ้องร้อง
- บางสถาบันการเงินจะมีข้อเสนอพิเศษให้รวมหนี้บัตรเครดิตกับสินเชื่อส่วนบุคคลเป็นหนี้ก้อนเดียวกัน และคิดอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลง
ข้อเสีย
- ยอดหนี้เดิม ดอกเบี้ย ค่าปรับ ค่าทวงถามที่ลูกหนี้หยุดชำระ จะถูกนำมารวมเป็นยอดหนี้ใหม่ และคิดอัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น โดยที่เจ้าหนี้ไม่ต้องจ่ายเงินให้กับลูกหนี้เพิ่ม
- การปรับโครงสร้างหนี้โดยการทำสัญญาใหม่ ถ้าลูกหนี้เกิดจ่ายไม่ไหวแล้วเจ้าหนี้ส่งฟ้อง ลูกหนี้จะหมดข้อต่อสู้เพราะสัญญาใหม่เป็นสัญญาที่ดอกเบี้ยต่ำ ไม่สามารถลดยอดหนี้ลงได้
- หนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล มีการคิดดอกเบี้ยในอัตราที่ต่างกัน รวมถึงอายุความที่ต่างกัน เมื่อนำมารวมเป็นยอดหนี้ก้อนเดียวกันที่คิดอัตราดอกเบี้ยเท่ากัน ย่อมทำให้เกิดความเสียเปรียบในบางอย่าง
การปรับโครงสร้างหนี้แม้จะเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับลูกหนี้ที่ชำระหนี้ตามกำหนดไม่ได้ แต่ก็มีข้อเสียอยู่เช่นกัน และสำหรับลูกหนี้บางรายอาจกลายเป็นปัญหาใหญ่ในภายหลังด้วย ดังนั้นควรพิจารณาให้ดีว่าเหมาะสมและคุ้มสำหรับเราหรือไม่ ทางที่ดีที่สุดควรบริหารจัดการเรื่องผ่อนชำระหนี้ให้ดีเพื่อไม่ให้ต้องมาวิตกกังวลตั้งแต่แรก
บทความแนะนำ
- เครดิตบูโรคืออะไร? มีความสำคัญอย่างไรในการขอสินเชื่อ?
- บัตรเครติต และ บัตรกดเงินสด คืออะไร? ต่างกันอย่างไร?
- ข้อดีข้อเสียของบัตรเครดิต…ใช้บัตรเครดิตให้ถูกวิธี ได้ประโยชน์และคุ้มค่า
- รีไฟแนนซ์รถยนต์ คืออะไร? มีขั้นตอนอย่างไร?
- รีไฟแนนซ์บ้าน คืออะไร? มีขั้นตอนอย่างไร?
- ดอกเบี้ยเงินกู้ MLR, MRR, MOR คืออะไร? ต่างกันอย่างไร?
- การปรับโครงสร้างหนี้ ขอประนอมหนี้คืออะไร? ดีหรือไม่?