การออมเงินสำหรับมนุษย์เงินเดือน บางคนอาจมองว่าเป็นเรื่องยาก เพราะภาระทางการเงินมีมากมาย ไหนจะค่าอาหาร ค่าเดินทาง ค่าสังสรรค์เพื่อการเข้าสังคม ค่าใช้จ่ายรายเดือนต่างๆ หรือถ้าวันไหนเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เช่น เกิดอุบัติเหตุ เจ็บป่วย กระเป๋าเงินหาย ก็ยิ่งต้องใช้จ่ายมากขึ้น การออมเงินก็ยิ่งยากเข้าไปอีก ยิ่งกับคนที่ไม่ได้อาศัยอยู่ที่บ้านและต้องเช่าหอพักหรือคอนโด ก็ยิ่งรายจ่ายเยอะ เราจึงมาแนะนำวิธีการออมเงินสำหรับมนุษย์เงินเดือน เก็บเงินแสนให้ได้ใน 1 ปี บอกเลยว่าไม่ยากอย่างที่คิด!
แนวทางการออมเงินสำหรับมนุษย์เงินเดือน
1. สำรวจตัวเองโดยแบ่งประเภทรายจ่ายแล้วกำหนดเป้าหมายการออม
หลายคนอาจมองข้ามนิสัยการใช้จ่ายของตนเองไป คิดว่าถ้าเก็บออมเงินไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็ถึงเป้าหมายเอง แต่ในทางปฏิบัติแล้ว เรามักเจออุปสรรคระหว่างการออมเป็นกิเลสของเราเอง เพราะเมื่อเจอของที่อยากได้ โดยเฉพาะของชิ้นเล็กชิ้นน้อย เราก็จะซื้ออยู่เรื่อยๆ เพราะเห็นว่าราคาไม่มาก แต่รวมๆ แล้วก็ทำให้เงินหายไปมากทีเดียว
ดังนั้นเราจึงต้องรู้ทันนิสัยการใช้เงินของตนเอง ว่าหมดเงินฟุ่มเฟือยไปกับเรื่องอะไร เช่น ของจุกจิก เครื่องสำอางและเสื้อผ้าที่ฟุ่มเฟือยเกินจำเป็น ขนมขบเคี้ยว เครื่องดื่มอย่างชานมไข่มุก เป็นต้น แล้วแก้นิสัยนั้น ในส่วนของรายจ่ายประจำเดือน จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ
- รายจ่ายคงที่ คือ รายจ่ายที่จ่ายเป็นประจำทุกเดือนและสามารถคำนวณหรือประมาณรายจ่ายล่วงหน้าได้ เช่น ค่าอาหาร ค่าเดินทาง ค่าผ่อนรถยนต์ เป็นต้น
- รายจ่ายผันแปร คือ รายจ่ายที่ไม่แน่นอน ไม่สามารถคำนวณได้ เช่น ค่างานเลี้ยง ค่ารักษาพยาบาล รวมไปถึงการใช้เงินไปกับสิ่งของฟุ่มเฟือย ซึ่งตรงนี้อาจหมายถึงค่าใช้จ่ายเพื่อความสุขในแต่ละเดือน เราสามารถปรับให้เป็นรายจ่ายคงที่เพื่อจำกัดการใช้จ่ายเงินเพื่อซื้อความสุขให้ตนเองได้
เมื่อเราสำรวจการใช้เงินของตนเอง และแยกประเภทออกมาเป็นรายการต่างๆ แล้ว เราก็จะสามารถบริหารจัดการการใช้เงินได้ดีขึ้น ตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออก และการตั้งเป้าหมายจะทำให้เราไม่รู้สึกหมดกำลังใจระหว่างการออมเงิน
2. ตัดเงินเดือนอัตโนมัติเข้าบัญชีเพื่อการออม
วิธีนี้อาจจะเหมาะที่สุดสำหรับคนที่หักห้ามใจตัวเองยาก เพราะเหมือนการหักดิบไปในตัว และยังเป็นวิธีที่ง่ายและสะดวกสบายมากสำหรับมนุษย์เงินเดือนในยุคปัจจุบัน โดยการตั้งระบบตัดเงินอัตโนมัติเมื่อมีเงินเดือนเข้า ให้โอนไปยังบัญชีเพื่อการออมของเรา ซึ่งแนะนำให้เป็นบัญชีแบบฝากประจำ (อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับประเภทเงินฝากธนาคาร)
สำหรับคนที่อยากเก็บเงินแสนภายใน 1 ปี เงินขั้นต่ำควรอยู่ที่ราวๆ 8,300 บาทต่อเดือน เพราะเมื่อร่วมกับดอกเบี้ยของบัญชีฝากประจำแล้ว เราก็จะได้เงินครบแสนเมื่อถึงสิ้นปีแน่นอน แต่สำหรับใครที่มีแผนออมเงินระยะยาวกว่านั้น ก็อาจเลือกกำหนดขั้นต่ำที่น้อยกว่านั้น ที่แนะนำคือประมาณ 30% ของรายได้

3. วางแผนค่าอาหารการกิน
ค่าอาหารเป็นส่วนหนึ่งของรายจ่ายคงที่ในแต่ละเดือน และมักจะเป็นรายจ่ายก้อนใหญ่ที่สุดในชีวิตประจำวัน ถ้าลดค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ได้ก็จะทำให้ออมเงินได้มากขึ้น โดยมีอยู่สองวิธี คือ
- ทำอาหารเอง เพราะวัตถุดิบแต่ละอย่าง สามารถนำมาแบ่งทำอาหารได้หลายมื้อ ทำให้มีรายจ่ายถูกกว่าการซื้ออาหารตามร้านค้าหรือตามห้างสรรพสินค้า แถมยังสามารถเลือกเมนูได้เอง รู้ว่าปรุงรสด้วยอะไรไปบ้าง ล้างวัตถุดิบได้สะอาดแค่ไหน ทำให้มีสุขภาพดีกว่าซื้อแต่อาหารตามร้านค้า
- แชร์กับข้าวกับเพื่อนร่วมงาน ถ้าสามารถสั่งกับข้าวมาแชร์กันได้ ก็จะได้กินอาหารที่หลากหลาย เปลี่ยนบรรยากาศ และประหยัดเงินอีกด้วย
4. หาอาชีพเสริม
ถ้ามีภาระทางการเงินมากจนไม่สามารถออมได้ตามเป้าหมาย อีกทางเลือกหนึ่งสำหรับมนุษย์เงินเดือนคือการหาอาชีพเสริม โดยควรเป็นงานที่ใช้เวลาไม่มาก สามารถทำได้เวลาว่างได้ เช่น ขายของออนไลน์ ก็เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับยุคปัจจุบัน หรือถ้ามีความรู้ความสามารถในเรื่องใดเรื่องหนึ่งก็สามารถเขียนบล็อก ทำแชแนลยูทูปเพื่อเผยแพร่ความรู้ของตนเอง ยิ่งถ้ามีสกิลการเล่าเรื่องที่สนุกสนาน สามารถเอนเตอร์เทนคนอ่านและคนดูได้ บล็อกหรือยูทูปก็จะมียอดคนดูและคนติดตามมาก สร้างโอกาสที่จะมีสปอนเซอร์มาสนับสนุน ทำให้ได้เงินเพิ่มไม่ยาก (อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับการหารายได้เสริม)
5. ลงทุนในกองทุนรวม
นอกจากวางแผนการออมและทำอาชีพเสริมเพื่อหาเงินเพิ่มแล้ว การให้เงินทำงานก็เป็นอีกวิธีที่ดีในการเก็บเงิน โดยนำเงินไปลงทุน เช่น ซื้อกองทุนรวม โดยก่อนซื้อควรศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับนโยบายของกองทุนจนมั่นใจว่าเหมาะกับเรา โดยกองทุนที่เสี่ยงมาก ก็ยิ่งผลตอบแทนมาก และกองทุนบางประเภทเช่น RMF หรือ SSF ยังสามารถนำเงินไปลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย (อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับกองทุนรวม)
6. เคล็ดลับออมเงิน 52 สัปดาห์
ถ้าอยากท้าทายตัวเองแบบสนุกๆ และไม่ยุ่งยากกับการจดบัญชีรายรับรายจ่าย วิธีนี้เป็นไอเดียจากประเทศสหรัฐอเมริกา โดยต้องเริ่มเก็บเงินในสัปดาห์แรก 100 บาท สัปดาห์ต่อไปก็เพิ่มไปเรื่อยๆ ทีละ 100 บาท คือสัปดาห์ที่ 2 ออม 200 บาท สัปดาห์ที่ 3 ออม 300 บาท ถ้าสามารถเก็บเงินตามวิธีนี้ได้ทั้งหมด 52 สัปดาห์ ก็จะมีเงินเก็บ 137,800 บาทเลยทีเดียว เรียกได้ว่าสามารถเก็บเงินแสนได้ใน 1 ปีเลย!
วิธีการออมเงินสำหรับมนุษยเงินเดือนทั้งหมดที่กล่าวมา เป็นแนวทางที่ถ้าปฏิบัติตามอย่างครบถ้วน จะทำให้เก็บเงินแสนได้ไม่ยาก แต่อย่างไรก็ตาม ควรปรับให้เหมาะสมกับการใช้ชีวิตของตนเอง เพื่อไม่ให้การออมเงินสร้างความลำบากให้กับเราจนเกินไป
บทความแนะนำ
- วิธีการออมเงินสำหรับมนุษย์เงินเดือน เก็บเงินแสนได้ไม่ยาก!
- วิธีการลงทุนและหารายได้เสริมสำหรับมนุษย์เงินเดือนที่สามารถทำได้จริง!
- ข้อควรพิจารณาในการเลือกซื้อบ้านสำหรับมนุษย์เงินเดือน
- การคำนวณอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่มนุษย์เงินเดือนควรรู้
- 20 แนวทางการลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับมนุษย์เงินเดือน
- ประกันสังคม สิทธิประโยชน์ที่มนุษย์เงินเดือนและผู้มีรายได้ควรรู้
- กองทุนสํารองเลี้ยงชีพ สิทธิประโยชน์ที่มนุษย์เงินเดือนควรรู้