รถยนต์เป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับคนที่ต้องเดินทางอยู่เป็นประจำ เช่น ผู้ที่ต้องเดินทางไปทำงานทุกวันหรือออกต่างจังหวัดบ่อยๆ ผู้ที่ต้องนำสินค้าไปส่งลูกค้า เป็นต้น เพราะรถยนต์ช่วยอำนวยความสะดวกสบายในการเดินทาง ทำให้ไม่ต้องต่อรถหลายต่อ สะดวกและเป็นส่วนตัวกว่าการเดินทางด้วยรถโดยสารสาธารณะ จึงไม่แปลกที่หลายๆ คนจะซื้อรถ แต่โดยทั่วไปแล้วมักเป็นการกู้เงินซื้อรถยนต์ เป็นหนี้ก้อนใหญ่ที่เมื่อกู้แล้วต้องผ่อนชำระอีกหลายปีคล้ายการกู้เงินซื้อบ้าน และมีดอกเบี้ยที่อัตราเพิ่มขึ้นไม่ต่างกัน ซึ่งก็สามารถลดอัตราดอกเบี้ยได้ด้วยการรีไฟแนนซ์รถยนต์ ไม่ต่างกับการรีไฟแนนซ์บ้าน เพียงแต่มีรายละเอียดที่แตกต่างกันไป (อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับการรีไฟแนนซ์บ้าน)
ทำไมต้องรีไฟแนนซ์รถยนต์?
การรีไฟแนนซ์รถยนต์ คือ ผู้เช่าซื้อรถยนต์ต้องการกู้เงินก้อนใหม่เพื่อชำระคืนเงินกู้ก้อนเก่า ซึ่งอาจได้ผลประโยชน์ที่ดีกว่าเดิม เช่น อัตราดอกเบี้ยถูกลง ได้ขยายเวลาผ่อนชำระ การรีไฟแนนซ์รถยนต์ ผู้เช่าซื้อต้องคำนวณว่าส่วนต่างจากดอกเบี้ยใหม่กับดอกเบี้ยเก่า และค่าใช้จ่ายในการทำรีไฟแนนซ์คุ้มค่าที่จะทำหรือไม่ ถ้าพิจารณาแล้วว่าคุ้มและธนาคารอนุมัติให้เริ่มผ่อนชำระใหม่ ก็จะเป็นการเริ่มนับ 1 ใหม่ไปจนถึงงวดที่ครบกำหนด
ข้อดีของการรีไฟแนนซ์รถยนต์ นอกจากได้อัตราดอกเบี้ยที่ถูกลงและเวลาผ่อนชำระนานขึ้น ยังมีเงินก้อนมาหมุนเวียนเพื่อใช้จ่าย ซึ่งเป็นการกู้เงินที่อัตราดอกเบี้ยถูกกว่ากดเงินสดจากบัตรเครดิตหรือบัตรกดเงินสด เพราะดอกเบี้ยของการรีไฟแนนซ์รถยนต์อยู่ที่ 3 – 5% ขณะที่ดอกเบี้ยของบัตรเครดิตหรือบัตรกดเงินสุดอยู่ที่ประมาณ 20% ขึ้นไป (อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับบัตรเครดิตและบัตรกดเงินสด)
ขั้นตอนการรีไฟแนนซ์รถยนต์
- คำนวณก่อนว่าดอกเบี้ยเดิมเมื่อหักส่วนต่างกับดอกเบี้ยที่จะเกิดขึ้นใหม่ คุ้มค่าหรือไม่
- ส่งเอกสารที่เกี่ยวข้องให้ธนาคารที่ต้องการรีไฟแนนซ์ตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับเครดิตบูโร
- เมื่อธนาคารแห่งใหม่อนุมัติ เราจะสามารถปิดบัญชีและรับเงินจากธนาคารใหม่ทันทีในวันนั้นเลย โดยไม่ต้องรอเล่มออกมาจากไฟแนนซ์เดิม
- เมื่อได้รับเล่มมาแล้วต้องส่งให้กับธนาคารใหม่ที่เราไปกู้ยืม เพื่อให้ธนาคารใหม่ดำเนินการตามขั้นตอนและแจ้งข้อมูลผ่อนชำระหนี้ให้เรา เป็นอันเสร็จสิ้น
ข้อควรระวังในการรีไฟแนนซ์รถยนต์
ข้อควรระวังที่สำคัญในการรีไฟแนนซ์คือเรื่องค่าใช้จ่ายทั้งจากธนาคารแห่งเดิมและธนาคารใหม่
- ค่าปรับ 2 – 3 % จากธนาคารแห่งเดิมเมื่อมีการไถ่ถอนหลักประกันก่อนระยะเวลา โดยส่วนใหญ่แล้วจะมีระยะเวลา 3 ปี นับจากวันกู้ยืมครั้งแรก
- ค่าใช้จ่ายในการประเมินหลักประกันจากสถาบันแห่งใหม่ และค่าธรรมเนียมการทำประกันรถยนต์
- ค่าจัดการสินเชื่อตามสัญญาใหม่ 0 – 1% ของวงเงินกู้ใหม่ ซึ่งขึ้นอยู่กับการตกลงระหว่างผู้กู้และธนาคารแห่งใหม่
- ค่าอากรสแตมป์ที่ธนาคารแห่งใหม่ ส่วนมากแล้วคิดน้อยมาก เพียง 0.05% ของวงเงินกู้ใหม่
จะเห็นได้ว่าการรีไฟแนนซ์รถยนต์มีรายละเอียดยิบย่อยมากมายที่ต้องคำนึงถึงไม่ต่างจากการรีไฟแนนซ์บ้าน ทั้งนี้รถยนต์จะมีมูลค่าลดลงเมื่อเวลาผ่านไป ดังนั้นจึงต้องวางแผนทางการเงินให้ดีหากคิดจะรีไฟแนนซ์รถยนต์ ซึ่งถ้าสามารถรีไฟแนนซ์ได้ก็จะได้ประโยชน์มากมาย ทั้งอัตราดอกเบี้ยที่ถูกลง ระยะเวลาผ่อนยาวนานขึ้น และได้เงินกู้มาหมุนเวียนในอัตราดอกเบี้ยที่ถูกกว่าอัตราดอกเบี้ยจากบัตรเครดิตมาก