สำหรับคนที่มีความการเงินก้อนมาใช้จ่าย แต่ไม่ต้องการขายทรัพย์สินเช่น รถยนต์ เพราะจำเป็นต้องใช้งาน ไม่ว่าจะใช้เพื่อเดินทางไปทำงาน หรือใช้เพื่อขนส่งของให้ลูกค้าก็ตาม สามารถขอสินเชื่อกู้ยืมเงินได้ ซึ่งการทำสินเชื่อเพื่อกู้ยืมเงินมีหลากหลายแบบ สำหรับคนที่ไม่สามารถกู้เงินจากธนาคารได้เพราะไม่ได้ทำงานประจำ หรือฐานเงินเดือนไม่ถึงเกณฑ์ การใช้รถยนต์เป็นหลักค้ำประกันก็เป็นทางเลือกอีกรูปแบบหนึ่ง ซึ่งการจำนำทะเบียนรถยนต์นั้นนอกจากจะได้เงินกู้มาใช้แล้ว ยังสามารถใช้รถยนต์ระหว่างกู้เงินได้ด้วย
จํานําทะเบียนรถคืออะไร?
การจำนำ คือ สินเชื่ออย่างหนึ่งที่ต้องมีสินทรัพย์มาเป็นหลักประกันในการกู้เงิน (อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจำนำ) การจำนำทะเบียนรถยนต์ จึงเป็นการนำเล่มทะเบียนรถยนต์มาไว้เป็นหลักประกันแก่ “ผู้รับจำนำ” โดยที่ไม่ต้องโอนเล่มทะเบียนรถยนต์ ทำให้สามารถใช้งานรถยนต์ได้ระหว่างการจำนำ ทั้งนี้ต้องเป็นรถที่ผ่อนหมดแล้ว ซึ่งการประเมินรถจะประเมินตามอายุของรถ รถต้องมีอายุไม่เกิน 20 ปีจึงจำนำทะเบียนรถยนต์ได้ และถ้ารถอายุน้อยประกอบกับเป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมก็จะได้รับวงเงินสูงถึง 90%
ข้อดีของการจำนำทะเบียนรถ
- ได้รับเงินกู้เร็วกว่าสินเชื่อประเภทอื่นๆ รวมถึงสินเชื่อรถแลกเงินประเภทโอนเล่ม
- มีค่าธรรมเนียมและค่าดำเนินการที่ถูกกว่า เพราะไม่ต้องไปเสียค่าธรรมเนียมในการโอนเล่มที่กรมการขนส่ง และไม่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% ของค่างวดที่จะต้องเสียในกรณีโอนเล่ม
- สามารถใช้รถได้ตามปกติ
- อัตราดอกเบี้ยของการจำนำเล่มทะเบียนรถน้อยกว่าเงินกู้นอกระบบหรือดอกเบี้ยบัตรเครดิตหลายเท่าตัว
ขั้นตอนการใช้บริการจํานําทะเบียนรถ
- ติดต่อสถาบันการเงินที่ให้สินเชื่อ เพื่อประเมินรถ
- จัดเตรียมเอกสาร คือ ทะเบียนเล่มรถยนต์ พร้อมเอกสารประกอบการสมัครไปให้ครบถ้วน เช่น บัตรประชาชน, สำเนาทะเบียนบ้าน, เอกสารแสดงรายได้
- รอผลอนุมัติเพียง 10 – 20 นาทีก็กู้เงินได้ทันที
จํานําทะเบียนรถต่างจากรีไฟแนนซ์รถยนต์อย่างไร?
การรีไฟแนนซ์รถยนต์ คือ การนำรถยนต์มาค้ำประกันเงินกู้ เพื่อขอเงินกู้ก้อนใหม่ มีทั้งรถแบบที่ผ่อนชำระหมดแล้วและยังไม่หมด แต่ขั้นตอนการกู้จะยุ่งยากกว่าเพราะทางสถาบันการเงินต้องตรวจสอบประวัติผู้กู้ (อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับการรีไฟแนนซ์รถยนต์) ส่วนการจำนำทะเบียนรถยนต์ ขั้นตอนจะไม่ยุ่งยากเท่าการรีไฟแนนซ์รถ มีข้อดีคือไม่ตรวจสอบประวัติย้อนหลัง ต่อให้ติดแบล็กลิสต์ มีข้อมูลทางเครดิตซึ่งเกี่ยวข้องกับประวัติการชำระเงินกู้ยืมที่ไม่ดี เช่น ผ่อนชำระไม่ตรงเวลา หรือไม่ได้ผ่อนชำระหนี้คืน ก็สามารถทำได้ เพียงแต่จะต้องเป็นรถที่ผ่อนหมดแล้วเท่านั้น และจะมีอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่า
จะเห็นได้ว่าการทำสินเชื่อทุกประเภท มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป ดังนั้นจึงขึ้นอยู่กับความต้องการและคุณสมบัติของผู้กู้ว่าแบบไหนจะเหมาะกับตนเองมากกว่า ถ้าอยากได้เงินกู้แบบรวดเร็ว และตนเองมีรถยนต์ที่ผ่อนหมดแล้ว พร้อมทั้งต้องการใช้รถยนต์ระหว่างกู้เงิน การจำนำทะเบียนรถจึงเหมาะกว่าการรีไฟแนนซ์นั่นเอง