การขายภาพออนไลน์ไม่จำเป็นต้องถ่ายภาพสวยแบบมืออาชีพ หรือต้องมีอุปกรณ์ครบครัน หรือใช้กล้องถ่ายรูปแพงๆ เพราะปัจจุบันเพียงแค่มีสมาร์ทโฟนถ่ายรูปก็สามารถขายภาพออนไลน์ได้ เพียงแต่ต้องตีโจทย์ให้แตกว่าคนต้องการซื้อภาพแบบไหนไปใช้ เพราะบางทีภาพธรรมดาๆ ง่ายๆ ก็อาจมียอดดาวน์โหลดถล่มทลายก็ได้
ช่องทางการขายภาพออนไลน์
1. Shuttterstock.com
เว็บขายภาพออนไลน์หรือไมโครสต็อกที่มีชื่อเสียงมากที่สุด ก่อตั้งเมื่อปี 2003 การลงขายภาพใน Shuttterstock ต้องสมัครสมาชิก ช่างภาพจะได้ค่าคอมมิชชั่นเริ่มต้นที่ 0.25 เหรียญสหรัฐหรือราว 8 บาท ต่อการดาวน์โหลดแบบสมาชิก 1 ครั้ง ซึ่งแม้ยอดต่อการดาวน์โหลดจะไม่มาก แต่เว็บไซต์นี้มีผู้ใช้งานจำนวนมาก ทำให้มีโอกาสที่จะมียอดดาวน์โหลดมากขึ้น ซึ่งการจะลงขายภาพที่ Shutterstock ต้องส่งภาพจำนวน 10 ภาพไปทดสอบก่อน
2. iStockphoto.com
เป็นคู่แข่ง Shutterstock มีการทดสอบก่อนลงขายภาพเช่นกัน มีขายทั้งภาพถ่าย เว็คเตอร์ คลิปวิดีโอ คลิปเสียง โดยจะแยกการสอบของสื่อแต่ละประเภทออกจากกัน นับว่าเป็นการสอบที่ยากที่สุดในบรรดาไมโครสต็อก แต่เว็บนี้จะให้ความสำคัญกับช่างภาพ Exclusive ที่ไม่ได้ลงขายภาพให้ไมโครสต็อกหลายๆ แห่งจะมีรายได้ที่ดีกว่า และการอัพโหลดภาพขายต้องใช้โปรแกรมอัพโหลดโดยเฉพาะที่ชื่อ Deepmeta
3. Dreamstime.com
ไมโครสต็อกแห่งนี้ไม่ต้องทดสอบ สามารถขายภาพได้เลย มีระบบจำกัดสิทธิ์ในภารส่งภาพต่อสัปดาห์โดยขึ้นอยู่กับเปอร์เซ็นต์ที่ส่งภาพผ่านในแต่ละครั้ง ถึงแม้ยอดดาวน์โหลด Dreamstime จะยังไม่เทียบเท่า Shutterstock หรือ iStockphoto แต่ก็มียอดดาวน์โหลดที่สม่ำเสมอ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มต้นขายภาพ
4. Fotolia.com
เป็นไมโครสต็อกอีกแห่งที่ได้รับความนิยมจนติดอันดับ 1 ใน 5 การขายภาพไม่ต้องผ่านการทดสอบใดๆ สามารถลงขายได้เลย โดยมีขายทั้งภาพถ่าย ภาพเว็คเตอร์ และคลิปวิดีโอ
5. 123rf.com
ไมโครสต็อกอีกแห่งที่เหมาะสำหรับมือใหม่อยากขายภาพออนไลน์เพราะไม่ต้องผ่านการทดสอบ เพียงลงทะเบียนก็สามารถส่งภาพขายได้ทันที แถมยังมีแอพพลิเคชั่นทำให้ใช้งานง่ายด้วย
ข้อควรรู้สำหรับคนที่อยากขายภาพออนไลน์
1. ศึกษาทฤษฎีการถ่ายภาพและแต่งภาพ
รูปภาพที่มีองค์ประกอบดีและดูสวยงามย่อมมีโอกาสขายได้ง่ายกว่า แม้ว่าอุปกรณ์ในการถ่ายภาพนั้นจะไม่สำคัญ แต่คุณภาพของภาพถือเป็นสิ่งสำคัญ
2. สำรวจว่าอะไรคือรูปยอดนิยม
สำหรับมือใหม่ที่ยังไม่รู้ว่าจะถ่ายรูปอะไรดี ก็ให้ดูว่าภาพที่ได้รับความนิยม ขึ้นหน้าแรก เป็นภาพแบบไหน เพื่อจะได้เข้าใจมากยิ่งขึ้นว่าลูกค้าต้องการภาพอะไร แล้วนำมาปรับใช้กับผลงานของตน
3. ต้องผ่านการทดสอบก่อนลงขายรูป
สำหรับไมโครสต็อกบางแห่งต้องผ่านการทดสอบด้วย โดยมีกติกาแตกต่างกันไป เช่น จะลงขายภาพต้องส่งภาพไปทดสอบ 10 ภาพ และจะผ่านได้เมื่อผ่านกี่ภาพขึ้นไป บางแห่งก็มีการทดสอบคลิปวิดีโอต่าง และสื่ออื่นๆ ด้วย แต่ถ้าไม่ผ่านส่วนใหญ่แล้วทีมงานจะแจ้งมาว่าภาพไม่ผ่านอะไร ทำให้สามารถแก้ไขได้
4. ห้ามเอาหลักฐานแสดงตัวตนของคนอื่นมาสมัคร
ไม่ว่าจะบัตรประชาชน พาสปอร์ต เพราะการขายภาพเป็นเรื่องของลิขสิทธิ์ ควรทำให้ถูกต้องแต่แรกจะได้ไม่มีปัญหายุ่งยากตามมาภายหลัง
5. การรับเงินเมื่อขายภาพได้
โดยปกติแล้วจะรับผ่าน Paypal ส่วนยอดขั้นต่ำที่รับเงินได้ขึ้นอยู่กับที่เว็บไซต์กำหนด เช่น iStockphoto อยู่ที่ 100 $
การขายภาพออนไลน์สามารถทำเพื่อหารายได้เสริมหรือเป็นงานอดิเรกก็ได้ หรือบางทีอาจได้รายได้มหาศาลจากการขายภาพออนไลน์ก็ได้เช่นกัน ขึ้นอยู่กับมุมมอง วิธีการถ่ายภาพ ว่าตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ามากแค่ไหน
บทความแนะนำ
- รายได้แบบ Active Income และ Passive Income คืออะไร?
- วิธีการลงทุนและหารายได้เสริมสำหรับมนุษย์เงินเดือนที่สามารถทำได้จริง!
- อยากเป็นอินฟลูเอนเซอร์ (Influencer) เริ่มต้นอย่างไรดี?
- อยากเป็นบล็อกเกอร์ (Blogger) เริ่มต้นอย่างไรดี?
- อยากเป็นยูทูบเบอร์ (YouTuber) เริ่มต้นอย่างไรดี?
- อยากเป็นนักแคสท์เกม (Game Caster) เริ่มต้นอย่างไรดี?
- อยากเป็นนักเขียนนิยาย (Novelist) เริ่มต้นอย่างไรดี?
- อยากเป็นนักวาดการ์ตูน (Cartoonist) เริ่มต้นอย่างไรดี?
- อยากขายภาพออนไลน์ (Stock Photo) เริ่มต้นอย่างไรดี?