การคมนาคมในญี่ปุ่นนับว่าสะดวกสบายและเข้าถึงได้ง่าย แถมยังปลอดภัยและมีราคาที่เหมาะสม แต่ทั้งนี้การเช่ารถในญี่ปุ่นก็ได้รับความนิยมไม่น้อย ไปดูกันดีกว่า การเช่ารถขับเที่ยวญี่ปุ่นและการใช้บริการรถสาธารณะ มีลักษณะแตกต่างกันอย่างไร? มีข้อดีข้อเสียเป็นอย่างไร และแบบไหนดีกว่ากัน?
การเช่ารถขับเที่ยวญี่ปุ่น
การเช่ารถขับจะช่วยให้การท่องเที่ยวในประเทศญี่ปุ่นมีความสะดวกสบายขึ้นมาก โดยเฉพาะกับนักท่องเที่ยวที่เดินทางกันเป็นกลุ่ม เช่นครอบครัว กลุ่มเพื่อนประมาณ 3-4 คน ซึ่งการเช่ารถขับเที่ยวญี่ปุ่นนั้น ผู้ขับต้องมีใบขับขี่สากลเสียก่อน โดยสามารถทำที่สำนักงานขนส่งประเทศไทย เพียงเตรียมเงิน 505 บาท และเอกสารสำคัญตามที่กำหนด จากนั้นจองรถที่ต้องการผ่านเว็บไซต์ของบริษัทให้เช่ารถ 2-3 วันก่อนใช้งาน เมื่อได้รับอีเมลยืนยันการจองแล้วสามารถนำไปยื่นที่สำนักงานให้เช่ารถในวันนัดหมายได้เลย
ข้อดีของการเช่ารถขับเที่ยวญี่ปุ่น
1. เหมาะกับการท่องเที่ยวเป็นกลุ่ม
สำหรับผู้ที่ไปเที่ยวด้วยกันเป็นกลุ่ม การเดินทางด้วยรถสาธารณะเช่นรถไฟฟ้า รถบัส อาจไม่สะดวกสบายหรือคล่องตัวนัก ยิ่งถ้าไปเที่ยวหลายๆ ที่ในวันเดียวกัน การเช่ารถขับเที่ยวนั้นคุ้มและสะดวกสบายกว่ามาก
2. วางแผนเที่ยวได้ง่ายขึ้น
ถ้าต้องการเที่ยวในจุดที่นักท่องเที่ยวทั่วไปไม่ได้นิยมกัน การเดินทางด้วยรถไฟหรือรถบัสก็อาจจะเข้าไม่ถึง อาจต้องตัดออกจากรายการท่องเที่ยวไป แต่การเช่ารถขับจะแก้ปัญหานี้ได้ดีเพราะจะที่ไหนๆ ก็สามารถไปถึงได้โดยง่าย
3. หมดปัญหาเรื่องแบกสัมภาระ
การมีรถยนต์ใช้ระหว่างเที่ยวต่างประเทศทำให้ไม่ต้องห่วงเรื่องแบกสัมภาระพะรุงพะรังระหว่างเดินทาง
4. มีความเป็นส่วนตัว
การเดินทางด้วยรถสาธารณะจะมีความเป็นส่วนตัวน้อย เช่น คุยกันเสียงดังไม่ได้
ข้อเสียของการเช่ารถขับเที่ยวญี่ปุ่น
1. กฎจราจรแตกต่างจากบ้านเรา
กฎจราจรแต่ละประเทศจะมีรายละเอียดแตกต่างกันไป ซึ่งอาจก่อให้เกิดความสับสนได้ เช่น กฎจราจรของประเทศญี่ปุ่นไม่มีเลี้ยวซ้ายผ่านตลอดเหมือนที่ไทย ต้องรอสัญญาณไฟหรือสังเกตป้าย ถ้าไม่คุ้นชินหรือสับสนก็อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้
2. ต้องจอดรถในที่จอดรถเท่านั้น
ที่ไทยสามารถจอดรถริมทางได้ตามบริเวณที่กำหนด แต่ที่ญี่ปุ่นจะต้องจอดในที่ที่ทำไว้สำหรับจอดเท่านั้น ซึ่งจะต้องเสียค่าจอดรถเสมอ ยกเว้นการจอดรถในห้างสรรพสินค้าที่สามารถนำใบเสร็จที่ใช้จ่ายในห้างมาใช้จอดฟรีได้
3. ขับรถลำบากในช่วงฤดูหนาว
เนื่องจากฤดูหนาวของญี่ปุ่นมีหิมะตก การขับรถบนถนนที่มีหิมะต้องมีการล็อกโซ่ที่ล้อเพื่อป้องกันการลื่นไหลระหว่างขับ ถ้าไม่ชำนาญอาจก่อให้เกิดอันตรายได้
การใช้บริการรถสาธารณะ
ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่การเดินทางสะดวกเนื่องจากการคมนาคมที่ดี มีรถไฟและรถบัสเข้าถึงสถานที่ต่างๆ มากมาย ซึ่งมีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไป
รถไฟ
รถไฟญี่ปุ่นมีหลายแบบ แต่ละแบบก็มีเส้นทางเดินรถที่ต่างกัน ทั้งเส้นทางเดินรถในเมือง ข้ามจังหวัด หรือข้ามภูมิภาค และสามารถเลือกได้ด้วยว่าต้องการรถไฟที่มีความเร็วสูงอย่างชินคันเซ็น รถไฟด่วนมากหรือน้อยจากการจอดทุกสถานีหรือจอดบางสถานี
ข้อดีของการใช้บริการรถไฟ
1. มีเส้นทางเดินรถครอบคลุมทั่วญี่ปุ่น
ถ้ามีแผนเที่ยวแบบข้ามจังหวัด ก็สามารถเลือกนั่งรถไฟได้เลย เพราะมีรถไฟแบบ JR (Japan Railway) ที่ให้บริการเดินรถข้ามระหว่างเมืองและภูมิภาค
2. มี Pass ช่วยประหยัดค่าเดินทาง
ทั้งบริษัท JR และบริษัทรถไฟเอกชนมีการจำหน่าย Pass ให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งเป็นบัตรเหมาใช้ในเส้นทางและระยะเวลาที่กำหนด ซึ่งถ้าวางแผนดีๆ ก็จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางได้มาก
3. ตรงเวลา
รถไฟของญี่ปุ่นขึ้นชื่อเรื่องตรงเวลามาก แบบที่ว่าถ้ารถไฟมาช้า จะมีเอกสารแจ้งการมาสายให้หยิบที่สถานีรถไฟ เพื่อนำไปยื่นที่ทำงานได้เลย
ข้อเสียของการใช้บริการรถไฟ
1. ถ้าไม่สังเกตให้ดีอาจขึ้นผิดขบวนได้ง่าย
ชานชาลาที่ญี่ปุ่นหนึ่งชานชาลาอาจมีรถไฟหลายสายมาจอด ซึ่งมีจุดหมายปลายทางที่แตกต่างกัน ถ้าไม่สังเกตให้ดีว่ารถไฟที่มาจอดเป็นรถไฟขบวนไหน ก็อาจจะขึ้นผิดขบวนได้
2. ไม่เหมาะขึ้นในชั่วโมงเร่งด่วน
รถไฟญี่ปุ่นในชั่วโมงเร่งด่วนเป็นที่ขึ้นชื่อมากเรื่องผู้โดยสารหนาแน่น ดังนั้นถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางด้วยรถไฟในชั่วโมงเร่งด่วน เพราะผู้โดยสารหนาแน่นกว่ารถ BTS หรือ MRT บ้านเรามาก
3. ห้ามคุยโทรศัพท์
การคุยโทรศัพท์บนรถไฟรวมถึงการไม่ปิดเสียงเรียกเข้าหรือเสียงเตือนเป็นสิ่งที่เสียมารยาทมากในญี่ปุ่น แค่เรารับสายและพูดฮัลโหลก็อาจโดนหันมามองได้แล้ว ดังนั้นเมื่อขึ้นรถไฟแล้วจึงไม่สามารถโทรศัพท์ติดต่อใครได้
4. ไม่สะดวกในการขนย้ายสัมภาระ
สำหรับนักท่องเที่ยวที่มีสัมภาระรุงรัง การเดินทางด้วยรถไฟแบบธรรมดาอาจสร้างความเดือดร้อนรำคาญเพราะกระเป๋าและข้าวของของเราไปเบียดพื้นที่ของผู้โดยสารคนอื่น
รถบัส
รถบัสหรือรถประจำทางในประเทศญี่ปุ่นมีทั้งวิ่งระหว่างเมือง ข้ามจังหวัด หรือข้ามภูมิภาค และจะวิ่งในตัวเมืองผ่านสถานที่ท่องเที่ยว
ข้อดีของการใช้บริการรถบัส
1. เป็นตัวเลือกในการเดินทางต่อจากสถานีรถไฟ
เนื่องจากรถบัสจะมีป้ายรถอยู่ที่สถานีรถไฟ ทำให้การเดินทางต่อไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในเมืองมีความสะดวกสบายมาก
2. มีเส้นทางผ่านตัวเมืองและสถานที่ท่องเที่ยว
สำหรับผู้ที่วางแผนเที่ยวตามแลนด์มาร์กสำคัญต่างๆ ไม่ต้องกังวลเรื่องการเดินทางเลย เพราะมีรถบัสผ่านแทบทุกที่
3. ประหยัดค่าเดินทาง
แน่นอนว่าค่าโดยสารรถบัสภายในเมืองนั้นถูกกว่าแท็กซี่ อีกทั้งในเมืองใหญ่ๆ ของญี่ปุ่นยังมี Pass ซึ่งเป็นบัตรเหมารายวัน นอกจากนี้ค่าโดยสารรถบัสระหว่างเมืองนั้นถูกว่ารถไฟ อีกทั้งยังมีบริรถบัสกลางคืนซึ่งจะไปถึงที่หมายในตอนเช้า ก็จะช่วยเราประหยัดค่าที่พักไปได้อีก 1 คืนเลยทีเดียว
ข้อเสียของการใช้บริการรถบัส
1. ไม่มีที่วางสัมภาระ
การขึ้นรถบัสที่ให้บริการในเมืองไม่ค่อยเหมาะสำหรับคนที่สัมภาระรุงรัง แต่ถ้าเป็นรสบัสที่วิ่งทางไกล เราสามารถโหลดสัมภาระไว้ตรงที่เก็บใต้ท้องรถได้
2. คนหนาแน่นในชั่วโมงเร่งด่วน
รถบัสที่ให้บริการในเมืองในช่วงชั่วโมงเร่งด่วน เช่น ช่วงเช้าและช่วงเย็นวันธรรมดา ซึ่งเป็นเวลาไปกลับจากงานหรือโรงเรียน จะมีผู้โดยสารหนาแน่นอย่างมาก
3. ต้องรอรอบรถ
สำหรับรถบัสในเมืองนั้นไม่ค่อยมีปัญหาเพราะมีรอบค่อนข้างถี่ประมาณรอบละ 15 นาที แต่รถบัสในต่างจังหวัดนั้นอาจจะมีเพียง 1 รอบต่อชั่วโมงเท่านั้น ซึ่งถ้าพลาดรอบรถไปก็อาจจะให้ต้องปรับแผนท่องเที่ยวใหม่
ไม่ว่าจะเช่ารถขับเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเองหรือใช้บริการรถสาธารณะ ก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับว่าเหมาะกับเราแค่ไหน เช่น ถ้าชอบการท่องเที่ยวในสถานที่ที่ไม่มีรถสาธารณะไปถึง การเช่ารถในญี่ปุ่นเพื่อขับเที่ยวเองก็เหมาะกว่า แต่ถ้าไม่ชำนาญในการขับรถ หรือไม่อยากเหนื่อยขับรถเอง การขึ้นรถสาธารณะท่องเที่ยวก็เป็นทางเลือกที่ดีกว่านั่นเอง
บทความแนะนำ
- ประเภทสายการบินโดยสาร และระดับชั้นตั๋วเครื่องบิน (Class)
- 7 เคล็ดลับวิธีหาตั๋วเครื่องบินราคาถูก
- ประกันเดินทางคืออะไร? คุ้มครองอะไรบ้าง?