การระบาดของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 ซึ่งเป็นที่มาของโรคโควิด-19 (COVID-19) นั้นสร้างผลกระทบมากมายต่อชีวิตประจำวันของทุกคน จนทำให้เกิดคำนิยามใหม่อย่าง New Normal หรือ วิถีชีวิตใหม่หลังโควิด-19 ซึ่งพฤติกรรมของคนที่เปลี่ยนไปทำให้ภาคธุรกิจก็ต้องปรับตัวตามวิถีชีวิตใหม่ของคนด้วยเช่นกัน จึงต้องมีการวางแผนการบริหารจัดการให้เหมาะสม วันนี้เราจึงมี New Normal ของภาคธุรกิจว่าควรปรับตัวอย่างไรหลังโควิด-19 มาฝากกัน
New Normal ทางธุรกิจในการปรับตัวหลังโควิด-19 (COVID-19)
1. ชีวิตในยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ
ถึงการใช้ชีวิตบนโลกดิจิทัลจะไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่สำหรับคนยุคนี้ แต่การมาถึงของโควิด-19 ก็ทำให้คนต้องใช้ประโยชน์บนโลกออนไลน์กันอย่างเต็มรูปแบบไม่ว่าจะเป็นการทำงานจากที่บ้านหรือเรียนจากที่บ้าน ต่างก็ใช้แพลตฟอร์มออนไลน์ที่ช่วยอำนวยความสะดวกสบายกันทั้งสิ้น รวมไปถึงการสั่งอาหาร บริการต่าง ๆ ไปจนถึงการทำธุรกรรมออนไลน์ที่สะดวกสบายและไม่ต้องเดินทางออกนอกบ้าน
แต่การปรับตัวที่เห็นได้ชัดที่สุดสำหรับยุคโควิด-19 นี้ คงหนีไม่พ้นการช้อปปิ้งออนไลน์ที่ไม่ได้จำกัดอยู่แค่แพลตฟอร์มใดแฟลตฟอร์มหนึ่ง แต่อยู่ในรูปแบบการซื้อขายบนโซเชียลมีเดียหรือการรวมกลุ่มที่ทำให้ผู้ซื้อเข้าถึงผู้ขายได้โดยตรง ทำให้การทำธุรกิจในยุคนี้ไม่ควรจำกัดอยู่เพียงการขายหน้าร้านเพียงอย่างเดียว รวมถึงผู้ขายควรปรับปรุงวิธีการสั่งซื้อให้ใช้งานง่าย นำข้อมูลลูกค้ามาใช้ประโยชน์เพื่อปรับปรุงการซื้อขายให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด
2. พัฒนาตนเองอยู่เสมอ
การมาถึงของโควิด-19 เป็นสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดและเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว หลังจากวิกฤตนี้ผ่านไป อีกหนึ่ง New Normal ของคนในสังคมคือการเตรียมตัว เตรียมใจรับมือกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด เช่น การระบาดระลอกที่ 2 ทำให้คนวางแผนด้านการเงินกันมากขึ้น ทำให้กิจวัตรประจำวันบางอย่างจะยังคงหลงเหลืออยู่ เช่น การสั่งอาหารทางเดลิเวอรี การ Work from Home ซึ่งอาจททำให้เกิดเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นมาเพื่อรองรับการใช้ชีวิตแบบ New Normal นี้ และการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อรองรับความต้องการของคนในสังคมก็เป็น New Normal ที่หลายธุรกิจควรพัฒนาเพื่อให้ทันความต้องการของผู้บริโภค
3. ระยะห่างยังไม่ใกล้ขึ้น
การรักษาระยะห่าง หรือ Social Distancing ยังเป็นหัวใจหลักในการป้องกันโรคโควิด-19 เพื่อลดการสัมผัสของร่วมกันทำให้เชื้อโรคกระจายตัวได้รวดเร็วมากขึ้น ทำให้พฤติกรรมการเว้นระยะห่างยังเป็น New Normal ที่สำคัญ วิถีชีวิตใหม่ที่เห็นได้บ่อยขึ้นจึงเป็นการตกแต่งบ้าน ปลูกต้นไม้ ไปจนถึงการออกกำลังกายที่บ้าน
แต่หลังจากการคลายมาตรการล็อกดาวน์ให้ผู้คนออกมารับประทานอาหารนอกบ้าน เดินห้างสรรพสินค้ากันได้ แต่ก็ไม่ได้ทำให้พฤติกรรมการเว้นระยะของคนในสังคมนั้นลดลง ถึงแม้ว่าผู้คนจะโหยหาชีวิตแบบเดิม เช่น ไปดูหนัง ไปทำผม แต่งหน้า แต่ก็ยังหวาดระแวงต่อโรคร้ายมากกว่า ดังนั้นเป็นหน้าที่ของภาคธุรกิจที่จะทำให้เรื่องความสะอาดกลายเป็นสิ่งดึงดูดใจผู้คนให้เลือกซื้อสินค้าหรือบริการของตนเอง
4. ไลฟ์สไตล์เพื่อสุขภาพ
ไม่น่าแปลกใจที่คนอยู่บ้านมากขึ้นก็จะเริ่มสังเกตตัวเองมากขึ้น ทั้งเรื่องรูปร่าง สุขภาพร่างกาย โดยเฉพาะเมื่อมีโรคระบาดผู้คนก็ถือโอกาสรักษาสุขภาพให้แข็งแรง ลดน้ำหนักหรือทานอาหารที่มีประโยชน์มากขึ้น การปรับตัวของภาคธุรกิจให้เข้ากับสถานการณ์จึงเป็นสิ่งที่สำคัญ ทั้งการวางแผนมาตรการเรื่องความสะอาด การสร้างสินค้าใหม่ที่เข้ากับไลฟ์สไตล์เพื่อสุขภาพเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค ถือเป็นอีกหนึ่ง New Normal ที่ภาคธุรกิจต้องวางแผนปรับตัวให้ทัน
5. การผลิตในประเทศมีมากขึ้น
เนื่องจากโควิด-19 เป็นวิกฤตที่แพร่ระบาดไปทั่วโลก ที่ทำให้การท่องเที่ยว การส่งออกหรือนำเข้าทำได้ยากมากขึ้น ส่งผลให้เศรษฐกิจหยุดชะงัก แต่ละประเทศจึงต้องหันมาพึ่งพาทรัพยากรและกำลังซื้อในประเทศกันมากขึ้น วิกฤตนี้จึงทำให้ทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภคต้องเตรียมความพร้อมเพื่อให้การผลิตในประเทศมีมากขึ้น ซึ่งก็มีตัวอย่างให้เห็นแล้วจากที่สินค้าบางอย่างขาดตลาดเนื่องจากจีนปิดประเทศ จึงควรเริ่มสร้างการผลิตระดับท้องถิ่นเพื่อกระจายแหล่งต้นทุนการผลิตโดยไม่ผูกขาดประเทศใดเพียงประเทศเดียว
New Normal ทางธุรกิจในครั้งนี้จะเกิดขึ้นได้หากภาคธุรกิจปรับตัวอย่างยืดหยุ่นให้เข้ากับสถานการณ์และพฤติกรรมของคนในสังคม ซึ่งภาคธุรกิจต้องเตรียมตัวพร้อมรับมืออยู่เสมอและจัดหาสินค้าและบริการที่จะตอบโจทย์การใช้ชีวิตยุค New Normal ของคนในสังคมเพื่อให้ธุรกิจอยู่รอดอย่างยั่งยืน
บทความแนะนำ
ที่มาของบทความ
- https://www.brandbuffet.in.th/2020/05/mindshare-new-study-anticipates-7-new-norms-after-covid-19/
- https://techsauce.co/news/7-factors-that-will-shape-new-normal