พูดถึงธุรกิจขายตรง (MLM) หรือ ธุรกิจเครือข่าย (Network Marketing) หลายๆ คนคงเคยได้ยินเรื่องราวที่คนอื่นพูดต่อๆ กัน หรือมีประสบการณ์ที่ไม่ดีเท่าไหร่นัก เนื่องจากมักมีคนที่ทำธุรกิจขายตรงมาชวนให้ไปทำธุรกิจโดยใช้โฆษณาชวนเชื่อ เช่น รวยเร็ว ไม่ต้องทำงาน มี Passive Income ซึ่งเมื่อไปทำจริงๆ แล้วพบว่าไม่จริงอย่างที่โฆษณาทั้งหมด
แท้จริงธุรกิจขายตรงเป็นธุรกิจที่การเติบโตอย่างรวดเร็วจากการขยายเครือข่ายในการกระจายสินค้า แต่ธุรกิจเครือข่ายมีรูปแบบการตลาดที่ไม่เหมือนธุรกิจอย่างอื่น จนหลายคนอาจไม่แน่ใจว่าคืออะไร และเป็นธุรกิจที่ดีจริงหรือไม่ เหมาะที่จะลงทุนด้วยดีหรือเปล่า
ธุรกิจเครือข่ายแบบ MLM คืออะไร?
MLM (Multi-Level Marketing) หรือที่เรียกว่า ธุรกิจเครือข่าย (Network Marketing) คือ ธุรกิจขายตรง โดยธุรกิจขายตรงแบ่งออกเป็นการตลาดขายตรงแบบชั้นเดียว และการตลาดขายตรงแบบหลายชั้น ในที่นี้ MLM คือ ธุรกิจขายตรงแบบหลายชั้น
ธุรกิจขายตรงแบบหลายชั้นคือการตลาดแบบหนึ่งที่มีระบบการกระจายสินค้าจากผู้ผลิตไปยังผู้บริโภคโดยตรง ซึ่งการตลาดประเภทนี้จะทำให้ทุกคน ไม่ว่าจะเป็นใคร อายุเท่าไหร่ การศึกษาเป็นอย่างไร สามารถมาเข้าร่วมทำธุรกิจได้ โดยผู้มีส่วนร่วมนั้นจะต้องขายสินค้า แนะนำสินค้าให้ผู้บริโภค รวมถึงชักชวนผู้บริโภคมาเป็นผู้จำหน่ายสินค้าหรือหาตัวแทนจำหน่าย แล้วจะได้ผลตอบแทนจากกิจกรรมเหล่านั้น
อย่างไรก็ดีธุรกิจเครือข่ายแบบ MLM มักถูกเข้าใจผิดและมีภาพลักษณ์ที่ไม่ดี เนื่องจากกลุ่มแชร์ลูกโซ่ที่ผิดกฎหมายที่พยายามสร้างภาพลักษณ์ให้เหมือนธุรกิจเครือข่าย และมักจะมีการอวดอ้างถึงรายได้จำนวนมากโดยไม่ต้องทำงานประจำ ซึ่งเหมือนกับการขายฝันนั่นเอง
หลักการทำงานของธุรกิจเครือข่าย MLM
หลักการทำธุรกิจเครือข่าย MLM คือ การสร้างทีมงาน โดยผู้ทำธุรกิจขายตรงที่หาตัวแทนจำหน่ายเรียกว่าอัพไลน์ (Upline) ส่วนตัวแทนจำหน่ายที่อัพไลน์หามาได้เรียกว่าดาวน์ไลน์ (Downline) ซึ่งเมื่อดาวน์ไลน์ทำยอดได้ อัพไลน์ที่เป็นคนชักชวนดาวน์ไลน์มาทำ ก็จะได้ส่วนแบ่งจากดาวน์ไลน์ด้วย ส่วนดาวน์ไลน์นั้นก็สามารถหาดาวน์ไลน์ของตนเองต่อได้อีกเช่นกัน ทำให้ในทีมมีจำนวนคนเพิ่มมากขึ้น และได้ส่วนแบ่งจากดาวน์ไลน์เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
นอกจากรายได้จากส่วนแบ่งจากดาวน์ไลน์ ผู้ทำธุรกิจเครือข่ายจะได้กำไรจากส่วนต่างๆ ดังนี้
- กำไรจากการขายสินค้า
- ส่วนลดในการซื้อสินค้าหรือบริการของบริษัท เพื่อนำมาขายต่อหรือชักชวนตัวแทนจำหน่ายคนใหม่ๆ
- กองทุนต่าง ๆ เช่น กองทุนท่องเที่ยว หรือกองทุนรถยนต์ เป็นต้น
ข้อดีของธุรกิจเครือข่ายแบบ MLM
- ใช้ต้นทุนน้อย ไม่ต้องมีหน้าร้าน
- ทำธุรกิจที่ไหนเมื่อไหร่ก็ได้ มีเวลาไหนก็สามารถทำได้
- ไม่ต้องมีประสบการณ์ก็สามารถทำได้
- สามารถทำเป็นงานเสริม ควบคู่กับงานประจำได้
- โอนรหัสสมาชิกให้กับทายาทได้ เหมือนกับการยกโอนธุรกิจอื่นทั่วไป
ข้อเสียของธุรกิจเครือข่ายแบบ MLM
- ในช่วงเริ่มแรกการหาดาวน์ไลน์อาจเป็นไปด้วยความยากลำบาก
- อาจมีการขายสินค้าหรือบริการแบบตัดราคากันเองระหว่างผู้ทำธุรกิจ
- สินค้าส่วนมากมีราคาแพง ทำให้ขายได้ค่อนข้างยาก
- อาจต้องมีการต่ออายุสมาชิก แล้วแต่กฎของบริษัท
- ถ้าถูกเลิกจ้างอาจไม่ได้รับผลประโยชน์ เนื่องจากไม่มีกฎหมายใดรองรับการทำธุรกิจแบบขายตรง
ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจแบบไหนย่อมมีข้อดีข้อเสียในตัวเอง อยู่ที่ว่าผู้ทำธุรกิจจะรู้จักปรับตัว หากลยุทธ์ในการแก้ปัญหาและดึงข้อดีออกมาใช้ให้ได้เต็มประสิทธิภาพหรือไม่ ซึ่งธุรกิจเครือข่ายแบบ MLM เหมาะกับผู้ที่สามารถพูดโน้มน้าวใจได้เก่ง มีคอนเน็คชั่นเยอะ เพราะจะทำให้ขายสินค้าและหาดาวน์ไลน์ได้ง่าย และถ้าสามารถทำได้ดี ก็นับได้ว่าธุรกิจขายตรงเป็นธุรกิจที่น่าสนใจไม่น้อย เพราะไม่ว่าใครก็สามารถทำได้นั่นเอง
บทความแนะนำ
- ธุรกิจขายตรง (Direct Sales) ธุรกิจเครือข่าย (MLM) คืออะไร?
- MLM (ธุรกิจขายตรง ธุรกิจเครือข่าย) คืออะไร? ดีจริงหรือไม่?
- Pre-Order (พรีออเดอร์) และ Dropship (ดรอปชิป) คืออะไร? เลือกแบบไหนดี?
- Franchise (ธุรกิจแฟรนไซส์) คืออะไร? มีข้อดีข้อเสียอย่างไร?
- Affiliate (แอฟฟิลิเอท) คืออะไร? Affiliate Marketing มีหลักการทำงานอย่างไร?