กองทุนแบบ Active Fund และ Passive Fund คืออะไร? เลือกลงทุนแบบไหนดี?

การลงทุนในกองทุนรวมหุ้นส่วนใหญ่แบ่งประเภทได้ 2 แบบ คือ กองทุนแบบ Active Fund และกองทุนแบบ Passive Fund ซึ่งแต่ละแบบก็มีข้อแตกต่างกันไปทั้งรูปแบบการลงทุน และผลตอบแทน ดังนั้นควรศึกษาให้เข้าใจชัดเจนว่ากองทุนแต่ละแบบคืออะไร และควรเลือกลงทุนแบบไหนดีให้เหมาะกับตนเอง

กองทุนแบบ Active Fund คืออะไร?

Active Fund เป็นกองทุนที่บริหารแบบเชิงรุก ผู้บริหารต้องทำทุกอย่าง ไม่ว่าจะคัดเลือกหุ้น กะเวลาที่เหมาะสมในการซื้อขายหุ้น เพื่อพยายามเอาชนะเกณฑ์มาตรฐาน (Benchmark) หรือดัชนีที่ตั้งไว้ เช่น Set 100, Set 50 เป็นต้น ยิ่งทำผลตอบแทนได้มากกว่าตลาดเท่าไหร่ ยิ่งเป็นกองทุน Active ที่ดีเท่านั้น

ข้อดีของกองทุนแบบ Active Fund คือมีความยืดหยุ่น สามารถปรับพอร์ตลงทุนให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจได้ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการกำไรจากกองทุนที่สูงกว่าดัชนี และปรับพอร์ตหุ้นได้ตามสภาพเศรษฐกิจ

กองทุนแบบ Passive Fund คืออะไร?

Passive Fund เป็นกองทุนที่ผู้บริหารลงทุนตามเกณฑ์มาตรฐาน (Benchmark) หรือดัชนีที่ตั้งไว้ ส่วนใหญ่ใช้แค่โปรแกรมหรือ Robot คอยปรับพอร์ตถ้าผลตอบแทนสูงหรือต่ำกว่าตลาดมากเกินไป ในด้านผลตอบแทนควรให้เหมือนตลาดมากที่สุดหรือมาตรฐานของกองทุนนั้นๆ ซึ่งแตกต่างจากกองทุน Active Fund ที่ผู้บริหารกองทุนจะคัดเลือกและทำการซื้อขายหุ้นเพื่อให้ได้ผลตอบแทนมากกว่าเกณฑ์มาตรฐาน

ข้อดีของกองทุนแบบ Passive Fund คือ มีค่าใช้จ่ายในการบริหารต่ำ เพราะไม่ได้ใช้นักวิเคราะห์และผู้จัดการกองทุนในการเลือกหุ้นหรือหลักทรัพย์ที่จะลงทุน และเปิดโอกาสให้ลงทุนในความเสี่ยงระดับเดียวกับตลาดได้ด้วยงบประมาณที่จำกัด เหมาะสำหรับคนที่ต้องการผลตอบแทนระยะยาว

เลือกลงทุนในกองทุนแบบไหนดี?

การลงทุนทั้งสองแบบมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป สำหรับคนที่เลือกลงทุนใน Passive Fund อาจเพราะไม่เชื่อมือผู้บริหารกองทุนแบบใน Active Fund แม้ Active Fund จะมีแนวโน้มได้กำไรสูงกว่าตลาดก็ตาม นอกจากนี้ Passive Fund ยังมีค่าธรรมเนียมต่ำกว่ามาก แต่ทั้งนี้ถ้าตลาดหุ้นอยู่ในช่วงขาลงก็จะไม่สามารถปรับพอร์ตหุ้นได้มากนัก
ขณะที่นักลงทุนบางคนก็ชอบแบบ Active Fund มากกว่า เพราะสามารถปรับพอร์ตได้หากตลาดหุ้นอยู่ในขาลง และมีโอกาสได้กำไรมากกว่า แม้ว่าการเลือกกองทุนที่ดีต้องศึกษาและใช้ความรู้ในระดับหนึ่งก็ตาม

สรุปแล้วจะเลือกลงทุนในกองทุนแบบไหน ก็ควรพิจารณาจากสไตล์ของเรา ว่าชอบการลงทุนที่ต้องศึกษาวิเคราะห์ด้วยตนเองและเลือกกองทุนที่มีความเสี่ยงมากกว่าเพราะมองเห็นผลตอบแทนที่สูงกว่า หรือชอบการลงทุนที่มีความเสี่ยงน้อยแต่ก็ได้ผลตอบแทนน้อยตามมา ซึ่งก็เหมาะสมกับผู้ที่ไม่มีเวลาศึกษาหรือติดตามการลงทุนมากนักนั่นเอง