ร้านชาบูเป็นร้านอาหารแบบเหมาจ่ายภายในเวลาที่จำกัด ลักษณะของชาบูมีความคล้ายสุกี้ มีน้ำซุปให้เลือกหลากหลาย เช่น น้ำซุปชาบู น้ำซุปน้ำดำ น้ำซุปต้มยำ เป็นต้น ส่วนวัตถุดิบอาหารก็มีหลากหลาย ตั้งแต่เนื้อหมู เนื้อวัว ไปจนถึงอาหารทะเล สามารถเลือกได้ตามราคาและความต้องการ จึงได้รับความนิยมมาก ร้านชาบูจึงเป็นธุรกิจที่ผู้ประกอบการหลายคนสนใจ เพราะมีโอกาสทำกำไรสูงหากบริหารจัดการให้ดี อย่างไรก็ตามการเปิดร้านชาบูมีรายละเอียดหลายอย่างที่ต้องใส่ใจมากกว่าร้านอาหารทั่วไปมากทีเดียว
ข้อควรรู้สำหรับคนที่อยากเปิดร้านชาบู
1. ทำเลเปิดร้าน
ไม่ว่าคุณจะทำธุรกิจอะไร ทำเลที่ตั้งเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะถ้าเดินทางมาลำบาก ลูกค้าก็ไม่อยากมา และเลือกไปทานที่ร้านอื่น รวมถึงต้องดูปัจจัยเรื่องที่จอดรถด้วยว่ามีที่จอดเพียงพอต่อจำนวนลูกค้าที่ร้านสามารถรองรับได้ไหม เพื่ออำนวยความสะดวกสบายให้ลูกค้าในทุกด้าน
2. บรรยากาศภายในร้าน
ร้านชาบูเป็นร้านที่ใช้เวลานั่งทานประมาณ 1 – 2 ชั่วโมง และลูกค้ามักจะมากันเป็นคู่หรือเป็นกลุ่ม พูดคุยไปพลางกินไปพลาง จึงควรมีบรรยากาศภายในร้านที่ดี เหมาะต่อการนั่งรับประทานอาหารและพูดคุย
3. รสชาติอาหาร
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ต้องใส่ใจอย่างมาก เพราะถ้าอาหารรสชาติไม่อร่อย ต่อให้บรรยากาศของร้านดีหรือบริการดีแค่ไหน ลูกค้าก็คงไม่อยากมาทาน ซึ่งสิ่งที่ร้านชาบูควรใส่ใจมากก็คือความสะอาด ความสดใหม่ของอาหาร รสชาติของน้ำซุป และรสชาติของน้ำจิ้ม
4. ราคา
คนที่เลือกกินชาบู เหตุผลหลักคือต้องการความคุ้ม ดังนั้นควรคำนวณราคาที่ออกมายอมรับได้ระหว่างเรากับลูกค้า โดยต้องมีคุณภาพอาหารที่เหมาะสมกับราคาด้วย
5. จัดการรายการอาหารอยู่ตลอด
ร้านชาบูเป็นร้านที่มีปริมาณอาหารที่ต้องสูญเสียเยอะมากในแต่ละวัน ดังนั้นควรจัดสรรวัตถุดิบให้คุ้มค่าที่สุด รายการอาหารไหนที่ลูกค้าเลือกน้อย และมีราคาสูง ก็ควรตัดออก เพื่อเป็นการประหยัดต้นทุน
6. รู้จักทำการตลาด
ปัจจุบันร้านชาบูมีการแข่งขันที่สูงไม่แพ้ร้านอาหารประเภทอื่นๆ เราจึงต้องรู้จักทำการตลาดให้ลูกค้าสนใจในร้านของเรา ซึ่งเราต้องสร้างเอกลักษณ์ให้แตกต่างจากร้านอื่นจนลูกค้าจดจำได้ โดยการตลาดที่ได้ผลดีคือการตลาดออนไลน์ ซึ่งสามารถกำหนดเป้าหมายได้ค่อนข้างแม่นยำ หรืออาจจะออกโปรโมชั่นส่วนลดพิเศษโดยมีเงื่อนไขว่าลูกค้าต้องเช็กอิน ถ่ายรูปอาหาร ถ่ายรูปร้าน ลงในเฟซบุ๊ก หรืออินสตาแกรม เป็นต้น
7. จำนวนโต๊ะในร้าน
ร้านชาบูเป็นร้านที่กินอาหารแบบเหมาจ่ายในระยะเวลาประมาณ 1 – 2 ชั่วโมง การเปิดร้านจึงต้องดูเรื่องจำนวนโต๊ะภายในร้านว่ารองรับลูกค้าได้กี่คนต่อวัน เพราะลูกค้าหนึ่งคนใช้เวลาทานค่อนข้างนาน ถ้าร้านมีขนาดใหญ่ก็สามารถรองรับลูกค้าได้มาก และเหมาะกับการเปิดร้านชาบูมากกว่า
8.การบริการ
การบริการคือหัวใจของร้านอาหาร ถ้าพนักงานเต็มใจบริการ พูดจาสุภาพ ยิ้มแย้มแจ่มใส ตั้งใจให้คำแนะนำกับลูกค้า หรือตั้งใจนำเสนอเมนูต่างๆ ลูกค้าก็จะเกิดความประทับใจ บางคนอาจจะเลือกร้านอาหารในส่วนของบริการมากกว่ารสชาติด้วยซ้ำ
จะเห็นได้ว่าการเปิดร้านชาบูค่อนข้างจะมีความยุ่งยาก ต้องพร้อมรับมือกับปัญหาหลายอย่างและปรับตัวตามตลาดให้ทัน รวมทั้งยังต้องมีทักษะด้านอาหารเพื่อให้อาหารออกมาอร่อย ถูกปากลูกค้า ดังนั้นถ้าใครอยากทำร้านชาบูล่ะก็ การมีประสบการณ์ด้านร้านอาหารมาก่อนจะได้เปรียบกว่ามากทีเดียว
บทความแนะนำ
- อยากเปิดร้านกาแฟ เริ่มต้นอย่างไรดี?
- อยากเปิดร้านชานมไข่มุก เริ่มต้นอย่างไรดี?
- อยากเปิดร้านชาบู เริ่มต้นอย่างไรดี?
- อยากเปิดร้านหมูกระทะ เริ่มต้นอย่างไรดี?
- อยากเปิดร้านขายของ ขายอะไรดี?
- อยากขายของตลาดนัด เริ่มต้นอย่างไรดี? ขายอะไรดี?